เหล็กกล่อง แป๊ปเหลี่ยม แป๊บแบน ขนาดทั้งหมดที่นิยมใช้

31 ตุลาคม 2566

เหล็กกล่อง หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเหล็กแป๊บ มีชื่อเรียกเช่นนี้เนื่องจากมีหน้าตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมกลวงตลอดแนวยาว มีคุณสมบัติโดดเด่นในด้านความแข็งแรง รองรับต่อการสั่นสะเทือนได้ดี และมีความยืดหยุ่นในการดัดแปลง เช่น การดัด เชื่อม ประกอบ และโค้งงอ จึงเป็นเหล็กคุณภาพสารพัดประโยชน์ที่สามารถใช้ในงานได้หลากหลาย 

เหล็กกล่องทั้งหมดมี 2 ประเภท 

• เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส (Square Steel Tube) มีลักษณะหน้าตัดเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส
• เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมแบน (Rectangular Steel Tube) มีลักษณะหน้าตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า

ทั้งนี้ เหล็กกล่องทั้งสองประเภทยังสามารถแบ่งย่อยตามขนาด ความหนาของเหล็ก และคุณสมบัติอื่นๆ ได้อีกด้วย

เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส (Square Steel Tube)

เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีชื่อเรียกอื่นๆ ว่า เหล็กแป๊บเหลี่ยม มีลักษณะหน้าตัดเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส เท่ากันทุกด้าน แต่ละมุมทำมุม 90 องศา ด้านในตัวเหล็กโปร่ง มีผิวเหล็กเรียบเนียน ไม่ขรุขระ ผลิตจากเหล็กกล้าคาร์บอน (Carbon Steel) โดยการรีดเย็น (Cold Rolled)

 

เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมแบน (Rectangular Steel Tube)

เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมแบนมีชื่อเรียกอื่น ๆ ว่า เหล็กแป๊บแบน มีลักษณะหน้าตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านในตัวเหล็กโปร่ง แต่ละมุมทำมุม 90 องศา มีผิวเหล็กเรียบเนียน ไม่ขรุขระ ผลิตจากเหล็กกล้าคาร์บอน (Carbon Steel) โดยการรีดเย็น (Cold Rolled)

 

ขนาดเหล็กกล่องที่นิยมใช้

ขนาดเหล็กกล่อง (นิ้ว)	ความหนา (มม.)	น้ำหนัก (กก./เมตร)
เหล็กกล่อง 1x1	1 มม. - 3.2 มม.	3.59 กก. - 12.79 กก.
เหล็กกล่อง 1 1/2	1.2 มม. - 1.6 มม.	3.8 กก. - 5 กก.
เหล็กกล่อง 2x2	1 มม. - 6 มม.	8.8 กก. - 43.03 กก.
เหล็กกล่อง 2x1	1 มม. - 3.2 มม.	6.41 กก. - 18.3 กก.
เหล็กกล่อง 3x1.5	1.2 มม. - 4.5 มม.	11.26 กก. - 39.5 กก.
เหล็กกล่อง 3x3	1.4 มม. - 6 มม.	18.46 กก. - 69.47 กก.
เหล็กกล่อง 4x2	1.2 มม. - 6 มม.	15.27 กก. - 70.08 กก.
เหล็กกล่อง 4x4	1.6 มม. - 10 มม.	29 กก. - 153.38 กก.

 

ขนาดเหล็กกล่อง กัลวาไนซ์

ขนาดเหล็กกล่อง กัลวาไนซ์ มีให้เลือกหลากหลายเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร งานตกแต่ง หรือทำรั้ว เหล็กกล่องกัลวาไนซ์ได้รับการเคลือบสังกะสีเพื่อป้องกันการเกิดสนิม ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานและลดการบำรุงรักษา ขนาดที่นิยมใช้ ได้แก่ 1x1 นิ้ว, 2x2 นิ้ว, 4x2 นิ้ว และขนาดอื่น ๆ ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม โดยมีความหนาตั้งแต่ 1.2 มม. ถึง 3.2 มม. ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักและแรงกดได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร

 

ขนาดที่นิยมใช้ของเหล็กกล่องเหลี่ยม และ เหล็กกล่องแบน

ขนาดเหล็กกล่อง 1x1 นิ้ว นิยมนำไปใช้ในงานโครงสร้างที่มีขนาดเล็ก เช่น

• เก้าอี้ทรงสูง
• ชั้นวางของอเนกประสงค์
• ตู้เก็บของ
• ประตูบานเลื่อนลูกกรง

ขนาดเหล็กกล่อง 2x4 นิ้ว นิยมนำไปใช้ในงานโครงสร้างที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี เช่น

• งานแปหลังคา
• งานประกอบโครงสร้างทั่วไป
• ประตูไม้โมเดิร์นแบบโปร่ง
• สะพาน

ขนาดเหล็กกล่อง 3x1 นิ้ว นิยมนำไปใช้ในงานโครงสร้างที่มีขนาดกลาง เช่น

• โครงชั้นวางของขนาดกลาง
• โครงหลังคาขนาดเล็ก
• โครงนั่งร้าน

ขนาดเหล็กกล่อง 4x4 นิ้ว นิยมนำไปใช้ในงานโครงสร้างที่มีขนาดกลาง เช่น

• โครงชั้นวางของขนาดใหญ่
• โครงหลังคาขนาดกลาง
• โครงประตูหน้าต่าง

ขนาดเหล็กกล่อง 6x6 นิ้ว นิยมนำไปใช้ในงานก่อสร้าง เช่น

• งานแปหลังคา
• การเชื่อมกับเหล็กประเภทอื่นๆ

ขนาดเหล็กกล่อง 8x8 นิ้ว นิยมนำไปใช้ในงานก่อสร้างทุกประเภท เช่น

• โครงหลังคาขนาดใหญ่
• โครงประตูหน้าต่างขนาดใหญ่
• โครงสะพาน 

ความหลากหลายของขนาดและความหนาที่เหล็กกล่องแบนมีทำให้มีการใช้งานหลากหลายในหลายอุตสาหกรรมและงานโครงสร้างต่างๆ โดยความเลือกใช้ขนาดและความหนาขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละงานและโครงสร้าง

 

การเลือกใช้งานเหล็กกล่องนั้น จำเป็นต้องพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

• ลักษณะของงาน ว่าต้องการใช้เหล็กกล่องรูปทรงใด เช่น เหล็กกล่องแบน หรือเหล็กกล่องเหลี่ยม
• น้ำหนักที่รองรับ เลือกขนาดเหล็กให้เหมาะสมกับน้ำหนักที่รองรับ

ลักษณะของงาน

เหล็กกล่องแบนเหมาะสำหรับงานที่ต้องการประหยัดพื้นที่ด้านล่าง เช่น โครงเฟอร์นิเจอร์ โครงชั้นวางของ เป็นต้น ในขณะที่เหล็กกล่องเหลี่ยมเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง เช่น โครงหลังคา โครงนั่งร้าน เป็นต้น

น้ำหนักที่รองรับ

ขนาดของเหล็กกล่องจะสัมพันธ์กับน้ำหนักที่รองรับ เหล็กกล่องที่มีขนาดและหนามากขึ้นจะรองรับน้ำหนักได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น เหล็กกล่องแบนขนาด 2x4 นิ้ว เหมาะสำหรับงานที่ต้องการรองรับน้ำหนักปานกลาง ในขณะที่เหล็กกล่องเหลี่ยมขนาด 4x4 นิ้ว เหมาะสำหรับงานที่ต้องการรองรับน้ำหนักมาก

 

เหล็กกล่องในงานอุตสาหกรรมก่อสร้าง

เหล็กกล่องมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมก่อสร้าง เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ดีในการรับน้ำหนักและความทนทาน เช่น เหล็กกล่องสามารถใช้ในการสร้างโครงสร้างต่างๆ เช่น อาคาร, โรงงาน, สะพาน, และงานโครงสร้างอื่นๆ ที่ต้องการความแข็งแรง

 

เหล็กกล่องในอุตสาหกรรมต่างๆ 

เหล็กกล่องไม่เพียงแต่ใช้ในงานก่อสร้างและโครงสร้างทั่วไปเท่านั้น แต่ยังมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องมือเครื่องจักร และอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากเหล็กกล่องมีน้ำหนักเบาและสามารถรับน้ำหนักได้ดี นอกจากนี้ยังใช้ในการสร้างโครงสร้างสำหรับเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรมบางชนิด โดยสามารถรับแรงกดและแรงกระแทกได้ดี ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเสียหายในระหว่างการผลิต

 

การเลือกใช้เหล็กกล่องสำหรับโครงการต่างๆ

การเลือกเหล็กกล่องที่เหมาะสมกับโครงการที่จะดำเนินการเป็นสิ่งสำคัญ ควรพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ เช่น น้ำหนักที่โครงสร้างต้องรับ, สภาพแวดล้อมที่จะติดตั้งเหล็กกล่อง, และการเข้าถึงสถานที่ติดตั้ง อย่างเช่น ในโครงการที่ต้องการโครงสร้างที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาพแวดล้อมชายฝั่งทะเล อาจจะต้องเลือกเหล็กกล่องที่ผ่านการชุบสังกะสีเพื่อป้องกันสนิมและการกัดกร่อน

 

การนำเหล็กกล่องไปใช้งานในด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรม

เหล็กกล่องไม่เพียงแต่ใช้ในงานโครงสร้างและงานอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการออกแบบและสถาปัตยกรรม ซึ่งการนำเหล็กกล่องมาใช้ในด้านนี้ช่วยเสริมให้โครงการต่างๆ มีความโดดเด่น ทันสมัย และเป็นเอกลักษณ์ ต่อไปนี้คือหลากหลายแง่มุมของการใช้เหล็กกล่องในด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรม

 

1. การออกแบบภายใน

เหล็กกล่องมักถูกนำมาใช้ในการออกแบบภายในสำหรับการสร้างโครงสร้างที่ทันสมัย อาทิ ฐานตู้โชว์, เฟอร์นิเจอร์แบบกำหนดเอง, หรือโครงสร้างตกแต่งภายในบ้านและอาคาร คุณสมบัติที่แข็งแกร่งและความเรียบง่ายของเหล็กกล่องทำให้มันเหมาะสำหรับสร้างลุคที่ทั้งอุตสาหกรรมและสมัยใหม่

 

2. การใช้งานในการออกแบบภายนอก

ในด้านการออกแบบภายนอก ทั้งนักออกแบบและสถาปนิกมักใช้เหล็กกล่องเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและความทนทานให้กับโครงสร้างภายนอก อาทิ ระเบียง บันได หรือกรอบรูปหน้าต่าง นอกจากนี้ยังใช้เป็นวัสดุหลักในการก่อสร้างกำแพงตกแต่ง ซึ่งมีทั้งความโดดเด่นทางเทคนิคและศิลปะ

 

3. สะพานและโครงสร้างขนาดใหญ่

เหล็กกล่องมีความสำคัญในการสร้างสะพานและโครงสร้างขนาดใหญ่เนื่องจากมีความแข็งแรงสูงและสามารถรับน้ำหนักได้ดี การใช้เหล็กกล่องในโครงการเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้โครงการมีความแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังช่วยให้การก่อสร้างสะดวกและรวดเร็วขึ้น

 

4. การนำไปใช้ในงานศิลปะ

เหล็กกล่องยังถูกนำไปใช้ในการสร้างงานศิลปะขนาดใหญ่และการติดตั้งที่ต้องการโครงสร้างที่แข็งแรงและมีอายุการใช้งานยาวนาน เหล็กกล่องช่วยให้ศิลปินสามารถสร้างผลงานที่ทั้งใหญ่โตและมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอกได้

 

การบำรุงรักษาเหล็กกล่อง

การบำรุงรักษาเหล็กกล่องอย่างสม่ำเสมอช่วยยืดอายุการใช้งานและคงคุณภาพของเหล็กให้ดีต่อไป นอกจากการทำความสะอาดเหล็กเพื่อกำจัดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกแล้ว ควรตรวจสอบหาจุดที่อาจมีการกัดกร่อน และทำการทาสีหรือเคลือบผิวเพื่อป้องกันการกัดกร่อน

 

สรุป

เหล็กกล่องเป็นวัสดุที่มีความสำคัญและถูกนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมหลายประเภท ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น เช่น ความแข็งแรง การทนทานต่อแรงกระแทก และความยืดหยุ่นในการใช้งาน เหล็กกล่องมีหลายประเภทและขนาดที่สามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมของงานได้ บริษัท KTM Metal บริษัท ก.ธนวัฒน์ เมทอล จำกัด เรามีความเชี่ยวชาญในการให้บริการที่ครบวงจร ทั้งจำหน่ายเหล็ก บริการจัดส่ง และให้คำปรึกษาด้านเหล็กอย่างมืออาชีพ ท่านสามารถมั่นใจได้ว่า จะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและบริการที่ดีที่สุดจากเรา

 

KTM Metal ศูนย์รวมเหล็กทุกชนิด น่าเชื่อถือด้วยบริการยาวนานกว่า 30 ปี ยินดีให้บริการ พร้อมนำส่งถึงที่หมายภายใน 1-2 วัน ดูขนาด เหล็กกล่อง เพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้ เหล็กกล่องเหลี่ยม และ เหล็กกล่องแบน สามารถสอบถามตรวจสอบรายละเอียดได้ที่ 

• โทรศัพท์ : 02-323-9307, 02-323-9308
• แฟกซ์ : 02-323-9309
• อีเมล : info@ktmmetal.com
• ไลน์ : @ktmmetal