มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด หรือ AD กับผลกระทบต่อราคาเหล็ก
วันนี้ KTM Metal จะพามาทำความรู้จักกับ มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาเหล็กโดยตรง ที่เรามักจะเคยได้ยินจากข่าวบ่อยๆ ว่า “ราคาเหล็กมีการปรับตัวขึ้นเป็นผลมาจากการใช้มาตรการ ภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด”
การทุ่มตลาด คืออะไร
การทุ่มตลาด เกิดจากการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศที่ไม่เป็นธรรมโดยที่ราคาส่งออกต่ำกว่ามูลค่าปกติของสินค้าชนิดเดียวกันที่ขายภายในประเทศผู้ส่งออก หรือผู้ผลิตเอง ซึ่งถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติด้านราคา (International price discrimination)

กรณีตัวอย่าง ประเทศ A ส่งออกเหล็กมาประเทศไทยในราคาตันละ 25,000 บาท แต่ราคาที่ขายจริงในประเทศผู้ผลิต/ผู้ส่งออก อยู่ที่ 30,000 บาท และผู้ผลิตในไทยอาจมีราคาขายเท่ากันหรือสูงกว่า ผู้ผลิตในไทยเลยเดือดร้อน เพราะของที่นำเข้าราคาต่ำกว่ามาก ซึ่งสาเหตุที่ทำแบบนี้เพราะต้องการส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น สิ่งนี้จึงเรียกว่า “การทุ่มตลาด”
มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด หรือ AD คือ?
เพราะเหตุนี้จึงมีมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping Measures) ขึ้นมา เป็นมาตรการทางการค้าที่ประเทศผู้นำเข้าใช้เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในที่ได้รับความเสียหาย หรือมีแนวโน้มที่จะได้รับความเสียหายจากการทุ่มตลาด
วัตถุประสงค์ของมาตรการ AD
เพื่อเป็นการปกป้องอุตสาหกรรมภายในจากการนำเข้าสินค้าที่ไม่เป็นธรรม องค์การการค้าโลก (WTO) จึงอนุญาตให้ประเทศผู้นำเข้าซึ่งได้รับผลกระทบสามารถเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดหรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “ภาษี AD” ได้ ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศ สังกัดกระทรวงพาณิชย์ก็มี “มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด” (Anti-Dumping Measures: AD)
โดยผู้ผลิตในไทยสามารถยื่นคำขอให้มีการใช้มาตรการกับรายการสินค้าบางประเภทได้ และหากคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (ทตอ.) พิจารณาแล้วว่ามีการทุ่มตลาดเกิดขึ้นจริง ก็จะมีการเรียกเก็บภาษี AD ทำให้ผู้นำเข้าต้องเสียภาษีแพงขึ้นสำหรับการนำเข้าสินค้าดังกล่าว แต่ละมาตรการมีผลใช้แค่ชั่วคราวเท่านั้น และจะถูกทบทวนใหม่ในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปีเพื่อพิจารณาว่าจะยุติหรือใช้ต่อไป
คณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน หรือ ทตอ. จะไต่สวนตามข้อมูลที่ได้รับ รวมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนที่จะพิจารณาว่ามีการทุ่มตลาดหรือไม่ หากมีจะต้องเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาด หรือ ภาษี AD ในอัตราเท่าใด โดยอัตราอากรตอบโต้การทุ่มตลาดนั้น จะต้องเป็นไปเพียงเท่าที่จะขจัดความเสียหายที่เกิดขึ้นเท่านั้น
ผลกระทบโดยตรงกับราคาเหล็กหากไม่มีมาตรการ AD (Injury)
หากไม่มีมาตรการ AD เหล็กจะถูกนำเข้าราคาถูกกว่าเกินกว่าปกติ ในระยะยาวมีความเป็นไปได้ว่าผลกระทบจะส่งถึงผู้บริโภคด้วย เพราะเมื่อผู้ผลิตในประเทศหายไปจากตลาด ไทยจะสูญเสียอำนาจในการควบคุมราคา เนื่องจากต้องอาศัยการนำเข้าสินค้าประเภทนั้นอย่างเดียว
ทั้งนี้ จะส่งผลกระทบต่อการพัฒนา และเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศด้วย เนื่องจากสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตต่อเนื่องเพื่อเชื่อมโยงไปยังอุตสาหกรรมที่สำคัญอื่นๆ ด้วย เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมก่อสร้าง และหากผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนในประเทศได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจนต้องปิดกิจการไป จะส่งผลให้ความมั่นคงในห่วงโซ่อุปทานในประเทศที่ถูกทำลายไป
ดังนั้น เมื่อเริ่มมีสัญญาณว่าจะเกิดการทุ่มตลาดสินค้า ผู้ผลิตควรจะไปร้องขอให้กรมการค้าต่างประเทศไต่สวนเพื่อออกมาตรการมาช่วยป้องกัน การทุ่มตลาดที่อาจจะเกิดขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก